เสริมภูมิคุ้มกัน แก้ไขอาการเบื้องต้น ด้วยศาสตร์โบราณ
ในยุคที่ผู้คนหันมาใส่ใจการดูแลสุขภาพแบบองค์รวมมากขึ้น ยาจีนกลายเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่มีประสิทธิภาพและประวัติศาสตร์ยาวนานหลายพันปี สมุนไพรจีนจำนวนมากถูกใช้เพื่อ ป้องกัน บำรุง และรักษาอาการเบื้องต้น ได้อย่างดี
ต่อไปนี้คือ 10 ยาจีนยอดนิยม ที่ควรมีติดบ้านไว้ ใช้ได้ทั้งบำรุงและรักษาเมื่อมีอาการเบาๆ

1. เก๋ากี้ (โกจิเบอร์รี่ – 枸杞子)
สรรพคุณ: บำรุงสายตา ตับ ไต เสริมภูมิคุ้มกัน
วิธีใช้: ต้มดื่มเป็นน้ำสมุนไพร หรือใส่ในซุป/โจ๊ก
เหมาะกับ: ผู้ที่ใช้สายตามาก อ่อนเพลียง่าย
2. โสมจีน (Ren Shen – 人参)
สรรพคุณ: บำรุงพลังงาน เสริมชี่ กระตุ้นสมอง
วิธีใช้: ชงน้ำร้อนดื่ม หรือใส่ในอาหารตุ๋น
เหมาะกับ: ผู้ที่อ่อนแรง พักผ่อนน้อย หรือฟื้นตัวจากป่วย
3. ตังกุย (Dang Gui – 当归)
สรรพคุณ: บำรุงเลือด บรรเทาปวดประจำเดือน
วิธีใช้: ต้มกับน้ำสมุนไพร หรือกินในรูปแบบยาต้ม
เหมาะกับ: ผู้หญิงวัยทำงาน มีภาวะเลือดพร่อง
4. ฟางเฟิง (Fang Feng – 防风)
สรรพคุณ: ขับลม ขับพิษ แก้หวัด ปวดข้อ
วิธีใช้: ผสมในยาจีนแก้หวัด หรือยาทาแก้ปวดข้อ
เหมาะกับ: ผู้มีอาการหวัด/ปวดข้อจากลมเย็น
5. จินอิ๋นฮวา (Jin Yin Hua – 金银花)
สรรพคุณ: แก้อักเสบ แก้ร้อนใน ลดไข้
วิธีใช้: ชงน้ำร้อนดื่มแบบชา
เหมาะกับ: ผู้ที่มีอาการร้อนใน ปากเป็นแผล
6. เฉียนหู (Qian Hu – 前胡)
สรรพคุณ: ขับเสมหะ แก้ไอ ลดอาการแน่นหน้าอก
วิธีใช้: ใช้เป็นส่วนผสมในยาน้ำแก้ไอ
เหมาะกับ: ผู้เป็นหวัด ไอมีเสมหะ
7. เจียวกู้หลาน (Jiao Gu Lan – 绞股蓝)
สรรพคุณ: ลดความดัน ลดไขมันในเลือด ต้านอนุมูลอิสระ
วิธีใช้: ชงดื่มเป็นชา
เหมาะกับ: ผู้สูงวัย หรือผู้ต้องการควบคุมความดัน/ไขมัน
8. ชิงเหอซู่ (Qing Re San – 清热散) (ยาผงตำรับจีนสำเร็จรูป)
สรรพคุณ: ระบายความร้อน ขับพิษ แก้ไข้
วิธีใช้: ผสมน้ำอุ่นดื่มตามขนาดฉลาก
เหมาะกับ: มีไข้ ร้อนใน เจ็บคอ
9. เป่าจงอี้ฉีหวาน (Bu Zhong Yi Qi Wan – 补中益气丸) (ยาลูกกลอน)
สรรพคุณ: เสริมพลังชี่ บำรุงม้าม แก้เหนื่อยง่าย
วิธีใช้: รับประทานตามขนาดที่ระบุ
เหมาะกับ: ผู้มีอาการเหนื่อยง่าย ล้าเรื้อรัง
10. ยาฟ้าทะลายโจรสูตรจีน (Huang Lian Su – 黄连素)
สรรพคุณ: แก้อักเสบ ลำไส้อักเสบ ท้องเสียจากร้อนชื้น
วิธีใช้: รับประทานตามอาการ
เหมาะกับ: ผู้มีอาการท้องเสีย ร้อนใน รู้สึกคลื่นไส้
✅ ข้อควรระวัง:
- เลือกซื้อจากร้านยาจีนที่มีความน่าเชื่อถือ
- ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญหากมีโรคประจำตัวหรือกินยาปัจจุบันอยู่
- ไม่ควรใช้สมุนไพรหลายชนิดพร้อมกันแบบสุ่ม
- หากอาการไม่ดีขึ้นภายใน 2–3 วัน ควรพบแพทย์
สรุป:
สมุนไพรและยาจีนเหล่านี้ไม่ใช่แค่ “ทางเลือกเสริม” แต่เป็นคลังยาโบราณที่มีคุณค่าทางการแพทย์จริง โดยเฉพาะในกรณีที่ใช้เพื่อดูแลสุขภาพทั่วไป บรรเทาอาการเบื้องต้น หรือเสริมภูมิคุ้มกันประจำวัน
หากใช้ถูกวิธี และเข้าใจร่างกายของตนเอง ยาจีนก็สามารถเป็นเพื่อนคู่บ้านที่ทรงพลังได้จริง!




